วันพุธที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2551

Learning Log


ทักษะการพูดเป็นอีกทักษะหนึ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งและในการจัดกิจกรรมเพื่อที่จะให้การเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและน่าสนใจ และนี่คือตัวอย่างกิจกรรมที่จะมาพัฒนาการสอนให้ดีขึ้น
เทคนิคการสอนทักษะการพูดภาษาอังกฤษ (Speaking Skill)
การสอนภาษาทุกภาษา มีธรรมชาติของการเรียนรู้เช่นเดียวกัน คือ เริ่มจากการฟัง และการพูด แล้วจึงไปสู่การอ่านและการเขียน ตามลำดับ จุดมุ่งหมายของการพูด คือ การสื่อสารให้ผู้อื่นได้รับรู้ด้วยการพูดอย่างถูกต้องและคล่องแคล่ว ครูผู้สอนควรมีความรู้และความสามารถอย่างไร จึงจะสามารถจัดการเรียนรู้เพื่อฝึกทักษะการพูดให้แก่ผู้เรียนได้อย่างสอดคล้องกับระดับและศักยภาพของผู้เรียน
กิจกรรมการเรียนการสอนครูให้นักเรียนเล่นเกมส์ทดสอบความจำ 3 ขั้น คือ ( มีกฎอยู่ว่าห้ามจดบันทึกไว้ )ขั้นที่1: ครูปิด/ลบ ( ในกรณีถ้าเขียน ) คำศัพท์บางคำทีละบรรทัด เช่น'What are you doing this evening?ครูปิด/ลบคำว่า “What ” ให้นักเรียนยกมือตอบ ใครตอบถูกก่อนจะได้สะสมคำละ1แต้ม ครูแจกกระดาษให้นักเรียนประเมินตนเอง โดยเมื่อตอบตอบถูกครูจะเดินไปติดสติกเกอร์ให้ 1 แต้ม (ในกระดาษประเมินตนเองของนร. )
ขั้นที่2: ครูให้นักเรียนหา partner จากนั้นครูปิด/ลบ ทีละประโยค นักเรียนคู่ใดยกมือขึ้นก่อนและตอบถูก จะได้แต้มอีกคู่ละ 1 แต้ม ( ครูให้ใบประเมินคู่ละ 1 ใบอีก คู่ใดตอบถูกก็จะได้สะสมครั้งละ 1 แต้มเช่นเดิม )
ขั้นที่3: ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มกลุ่มละ 3 – 4 คนครูดึงแผ่นช๊าตบทสนทนาออทั้งหมด จากนั้น ครูให้กระดาษเปล่ากลุ่มละ 1 ใบ ให้แต่ละกลุ่มช่วยกันเขียนบทสนทนาที่สมบูรณ์ขึ้นมา อีกครั้ง ครูให้เวลา 5 นาที ( ครูให้ใบประเมินกลุ่ม โดยเมื่อนักเรียนกลุ่มใดสามารถจำบทสนทนา ทั้งหมดจะได้แต้ม 3 แต้ม จำได้ไม่หมดก็จะลดลงเป็น 2 จนถึง 1 ตามลำดับ )ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม : ครูควรมอบรางวัลแก่นักเรียนที่ได้แต้มมากที่สุดเรียงตามลำดับกิจกรรม 1-3( โดยดูจากใบประเมินคะแนนที่ครูเก็บจากนักเรียน ) พร้อมทั้งครูแจกใบความรู้ที่1ให้นักเรียนฝึกกันถาม-ตอบบทสนทนากับpartner
Story in a bag( เรื่องราวในกระเป๋า)
ระดับผู้เรียน : นร.ชั้นมัธยมต้นขั้นเตรียมก่อนเรียนครูวัตถุประสงค์กระดาษลงในกระเป๋า 5 – 6 ข้อความซึ่งเป็นวัตถุประสงค์ ที่จะสุ่มใช้ในการสอน โดยใช้กระเป๋า 1 ใบกับนักเรียน 4 กลุ่ม ให้นักเรียนคิดกิจกรรมที่น่าสนใจขึ้นมา ให้มีความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่ครูกำหนดให้ ซึ่งวัตถุประสงค์ควรจะมีความหลากหลาย ผู้อื่นไม่สามารถจะเดาได้ เป็นการรวมสิ่งที่เป็นนามธรรมและเป็นรูปธรรมเข้าด้วยกันตัวอย่าง สิ่งของในกระเป๋า ได้แก่1.ไปรษณียบัตรจากสิงคโปร์ 2. ที่เปิดฝาภาชนะ3. เทียนไข 4.หน้ากากศัลยกรรม5.ใบปลิวละครตุ๊กตาหมีกิจกรรมการเรียนการสอนนักเรียนแต่ละกลุ่มเปิดกระเป๋า อ่านวัตถุประสงค์ที่กำหนดและคิดค้นเรื่องขึ้นจากวัตถุประสงค์ทั้งหมดในกระเป๋าที่ครูกำหนดให้ ซึ่งเรื่องของนักเรียนแต่ละเรื่องจะกลายมาเป็นเรื่องที่มีความซ้ำซ้อนและสร้างสรรค์ ตามวัตถุประสงค์แต่ละขั้นตอนที่ครูกำหนดให้ตัวอย่างของวัตถุประสงค์ข้างต้นในตอนเช้าของวันหนึ่ง Shelley ได้รับไปรษณียบัตรของเพื่อนเก่าจากวิทยาลัย เธอมีชื่อว่า Louise ไปรษณียบัตรนั้นเป็นไปรษณียบัตรจากประเทศสิงคโปร์ และข้อความภายในนั้น Louise ได้เขียนชวน Shelly ให้ไปประเทศสิงคโปร์ Shellyบินไปประเทศสิงคโปร์เพื่อพบกับ Louise ในคืนแรกพวกเขาไปดูละครท้องถิ่นที่เป็นเรื่องของการฆาตกรรม ความลี้ลับ หลังจากที่ละครท้องถิ่นเรื่องนั้นจบ Louiseมีความรู้สึกกลัวไม่กล้าที่จะเดินกลับบ้านของเธอคนเดียว ดังนั้นShellyจึงไปส่งเธอที่บ้าน เมื่อพวกเขาไปถึงบ้าน Louise ก็พยายามที่จะเปิดไฟ แต่เผอิญว่า ไฟฟ้าดับ เธอจึงจุดเทียนให้สว่างแทนกิจกรรมเสนอแนะ1. ครูสร้างสถานการณ์ ให้มีความเงียบสงบ ตัวอย่างเช่น กรณีที่ครูคนหนึ่งไปพบศพที่ข้างโต๊ะ ซึ่งเป็นศพของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ผู้ซึ่งถูกขโมยเพชรจากหัวเตียงนอนของเธอ2. นักเรียนแต่ละกลุ่มแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสิ่งที่อยู่ภายในกระเป๋าของพวกเขา อันเป็นเบาะแสของอาชญากรรมที่สามารถทราบได้จากการสอบสวน รายละเอียดของแต่ละกลุ่มจะเกี่ยวกับเรื่องของอาชญากรรม พร้อมทั้งยกตัวอย่าง
Getting teenagers talking
ระดับนักเรียน มัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย( ช่วงชั้นที่ 3, 4 )
สื่อ/อุปกรณ์- ของรางวัลเช่น ผลไม้ ขนม คุ้กกี้ ดินสอ- วีดีโอ- รูปกิ่งไม้กิจกรรมการเรียนการสอนมี 2 แนวทางที่ครูควรส่งเสริมให้วัยรุ่นได้ใช้ภาษาอังกฤษภายในห้องเรียนให้มากที่
) การรับสินบนกลอุบายในหนังสือ- ความคิดพื้นฐาน/ง่ายๆ คือการมีรางวัลเล็กๆน้อยๆให้กับนักเรียน เมื่อนักเรียนพูดภาษาอังกฤษได้พอสมควร ครูอาจจะให้นักเรียนฝึกพูดให้เป็นเรื่องเป็นราว เพื่อที่ครูจะได้ทำการประเมินความคืบหน้าของนักเรียนได้ตัวอย่างรางวัลที่ครูควรนำมาใช้ในการเสริมแรง- ผลไม้เล็กๆสามารถทำให้ประหลาดใจได้- ขนมและคุกกี้เป็นสิ่งที่น่าประทับใจ- ดินสอและยางลบสามารถใช้ในงานอื่นได้- คะแนนหรือการมอบรางวัลในคาบ หากนักเรียนให้ความร่วมมือในการจัดการเรียนการสอนเป็นอย่างดี หลังจากนั้นครูอาจจะให้นักเรียนดู วีดีโอ 10 นาที, ฟังเพลงและเล่นเกมส์ภาษาอังกฤษโดยให้นักเรียนเลือกเอง
2) การทายตัวอักษรระหว่าง 2 คนเป็นแนวทางอีกอย่างหนึ่งในการให้คะแนนการพูดภาษาอังกฤษแก่นักเรียน กิจกรรมนี้สามารถช่วยให้ครูได้รู้ว่านักเรียนมีความเข้าใจเกี่ยวกับภาษาอังกฤษมากน้อยเพียงใด-บางเวลาที่นักเรียนทำผิด นักเรียนไม่เข้าใจ ครูจะชี้แนะโดยใช้รูปแบบของสื่อ เป็นรูปกิ่งไม้ชี้แจงเกี่ยวกับการทายตัวอักษรระหว่างคน 2 คน-ถ้ากิจกรรมนี้สมบูรณ์แต่นักเรียนไม่พร้อม พวกเขาจะจัดการกิจกรรมเอง- การใช้เทคนิคนี้อย่างละเอียดรอบคอบจะคำนึงถึงผลที่ตามมาเสมอ
3) สิ่งที่เพิ่มเติมในเวลาพัก3.1 เป็นเวลาที่ใช้กิจกรรมในการต่อรองราคาเวลาซื้อของ เป็นการเริ่มต้นของคาบนี้ ใช้เวลา 5 นาที นักเรียนพูดโดยใช้ภาษาของตัวเขาเอง อย่างไรก็ตามถ้าเขาใช้เวลามากเกินไป คาบต่อไปเวลาเรียนจะลดลง แต่พวกเขาได้ใช้ทักษะพูดอย่างเต็มที่3.2 ครูต้องเพิ่มเวลาออกไปอีก แล้วแต่ครูกำหนด แต่ถ้ามันตรงประเด็นก็จำเป็นต้องเพิ่มเวลา3.3 แนวทางอื่นๆ อาจใช้เทคนิคนี้ให้เขาใช้เวลาอย่างเต็มที่ เขาสร้างเรื่องจริงขึ้นมาได้โดยใช้ภาษาอังกฤษในการพูด3.4 ครูอาจจะเช็คคะแนนไว้ในกระดาน เพื่อหลีกเลี่ยงการโต้แย้งและเตือนความจำของพวกเขา เกี่ยวกับความก้าวหน้าของพวกเขา
4) ข้อเสนอแนะผู้ที่พูดไม่ถูกต้องนั้นจะไม่ได้รับรางวัล แต่ผู้ที่พูดได้อย่างถูกต้องนั้นจะได้รับรางวัลในที่นี้รางวัลอาจจะเป็นเหรียญหรือถ้วยรางวัล
Interview the Experts( สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ)
ระดับนักเรียน:มัธยมต้นสื่อการเรียนรู้- บทสนทนาขั้นเตรียม
1.ครูให้นักเรียน 3คนนั่งหน้าห้อง เพื่อสำรวจความถนัดของตนเองในแต่ละด้าน
2.นักเรียนแต่ละคนคิดหาความชำนาญของตนเองกระบวนการ1.ครูปล่อยให้เด็กคิดหากิจกรรมเองที่เด็กคิดว่าตนเองถนัด ความถนัดนั้นมีหลายด้านด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นในด้าน การทำอาหาร การดูแลรักษารถ การดูแลต้นไม้ แม้กระทั่งในเรื่องเพศศึกษาที่เด็กจะต้องเรียนรู้2.เด็กจะต้องหาคำถามให้กับตัวเองเกี่ยวกับความถนัดของตน
3.ครูเตรียมคำตอบให้เด็กด้วยในขณะเดียวกันครูก็ต้องเอาประเด็นที่เด็กสนใจที่สุดเอาให้เด็กสนทนาขั้นฝึก1.เด็กพูดเกี่ยวกับสิ่งที่ตนเองชอบ หรือสนใจแลกเปลี่ยนกับเพื่อน เช่นบางคนชอบทางด้านแฟชั่นด้านการแต่งตัวตามสมัยนิยม เด็กก็สามารถเอาหัวข้อสนทนานี้มาคุยกันกับเพื่อนโดยอาจจะตั้งคำถามได้ คือ-เสื้อผ้าที่ชอบเป็นเสื้อผ้าลักษณะไหน-ชอบสีอะไรตัวอย่างเช่นA: เสื้อผ้าสีอะไรที่เป็นที่นิยมในปีหน้าB: ฉันคิดว่าน่าจะเป็นสีฟ้าไม่พลาดแน่นอนคำถามที่ใช้ในการสนทนานั้นจะต้องเป็นคำถามพื้นฐานก่อน ใช้คำถามง่ายๆในการแลกเปลี่ยนกันกับเพื่อนเพราะการที่เริ่มจากคำถามง่ายๆจะทำให้คู่สนทนาของเราไม่เกิดความเครียด ช่วยให้ทั้งคู่สนทนาผ่อนคลายด้วย

วันพฤหัสบดีที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2551

Learning Log

Task Based Learning คือ การจัดการเรียนรู้โดยผ่านกิจกรรม เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้โดยงาน ในการจัดการเรียนรู้ลักษณะนี้มีจุดประสงค์ที่ดีที่จะทำให้ผู้เรียนเกิดแนวคิด ทักษะ ทำความเข้าใจร่วมกันในกลุ่มและสื่อออกมาในลักษณะภาษาของผู้เรียนเอง ผู้จัดการเรียนรู้หรือผู้สอนจะต้องตรวจสอบความถูกต้องของผลของการจัดกิจกรรม ว่าตรงตามจุดประสงค์หรือไม่ ถ้ายังไม่ถูกต้องหรือยังไม่ชัดเจนเพียงพอ ผู้จัดการเรียนรู้หรือผู้สอนต้องจัดให้ผู้เรียนมีการค้นคว้าให้ถูกต้องหรือชัดเจนยิ่งขึ้น และเมื่อผู้เรียนเกิดความเข้าใจร่วมกัน แสดงว่า ผู้เรียนเกิดองค์ความรู้ใหม่ขึ้น ถือว่าประสบความสำเร็จในการจัดการเรียนรู้ สำหรับกิจกรรมที่สามารถใช้ในการจัดการเรียนรู้ได้แก่ โปสเตอร์ โปรชัวน์ วีดีโอ ในด้านของผู้สอน ผู้สอนมีหน้าที่ในการกำหนดกิจกรรม ในลักษณะปลายเปิด เช่น มีรูปภาพให้นักเรียน 3 ภาพ คือ ทะเล ก้อนหิน คน แล้วให้นักเรียนแต่งเรื่องจากภาพทั้ง 3 ภาพเป็นภาษาอังกฤษ นักเรียนจะเกิดความคิดและจินตนาการที่แตกต่างกัน ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนสามารถเกิดการเรียนรู้ แนวคิดหรือทักษะหลักๆ และเป็นการฝึกฝนความรู้รวมทั้งทักษะในลักษณะสร้างสรรค์ และการที่จะประสบความสำเร็จในการจัดการเรียนรู้โดยผ่านกิจกรรมนั้น ความมีส่วนร่วมของผู้เรียนมีความสำคัญอย่างมาก ผู้เรียนต้องมีส่วนร่วมและร่วมมือทำกิจกรรมสร้างสรรค์นั้นอย่างเต็มใจ โดยจะสะท้อนให้เห็นจากประสบการณ์ระหว่างการทำกิจกรรม

วันเสาร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2551

Learning Log

ดิฉันสนใจเรื่องแนวการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร(Communicative Approach) เป็นการสอนตามทฤษฎีการเรียนรู้ ซึ่งมุ่งเน้นความสำคัญของตัวผู้เรียนเป็นกลัก มีการจัดลำดับการเรียนรู้เป็นขั้นตอน เพื่อให้ผู้เรียนได้ใช้กระบวนการคิด โดยเริ่มจากการฟังไปสู่การพูด การอ่าน การจับใจความสำคัญ การทำความเข้าใจ การจดจำ แล้วนำเอาสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปใช้
ผู้เรียนจะสามารถเรียนได้มากน้อยเพียงใดนั้นขึ้นอยู่กับความเข้าใจเป็นสำคัญ นอกเหนือจากนั้นจะต้องมีความเข้าใจหลักภาษาที่นำมาใช้ในการวางรูปประโยคให้ได้ด้วย การสอนภาษาต่างประเทศในปัจจุบัน ได้หันมายึดแนวการสอนภาษาเพื่อการสื่อสารมากขึ้น โดยมีการจัดกิจกรรมที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เพื่อมุ๋เน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ ฝึกการใช้ภาษาในสถานการณ์จริงในชีวิตประจำวันอย่างสม่ำเสมอ และยังคงให้ความสำคัญกับโครงสร้างไวยกรณ์
แนวการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร
1. เป้าหมายของการสอนเน้นไปที่องค์ประกอบทั้งหมดของทักษาการสื่อสาร ไม่จำกัดอยู่ภายในกรอบของเนื้อหาภาษาหรือไวยกรณ์
2. เทคนิคทางภาษาได้รับการออกแบบมา เพื่อนำผู้เรียนไปสู่การใช้ภาษาอย่างแท้จริง
3. ความคล่องแคล่วและความถูกต้อง เป็นหลักการเสริมอยู่ภายใต้เทคนิคการสื่อสาร
4. ผู้เรียนจะต้องใช้ภาษาได้อย่างมีความเข้าใจและสร้างสรรค์ ภายในบริบทที่ไม่เคยมีการฝึกมาก่อน

ขั้นตอนการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร ประกอบด้วย 3 ขั้นตอน
1. ขั้นการนำเสนอเนื้อหา (Presentation) ในขั้นนี้ครูจะให้ข้อมูลทางภาษาแก่ผู้เรียน ซึ่งนับเป็นการเริ่มต้นการเรียนรู้ มีการนำเสนอเนื้อหาใหม่
2. ขั้นการปฏิบัติ (Practice) ในขั้นนี้ครูจะให้ผู้เรียนได้ฝึกใช้ภาษาที่เพิ่งจะเรียนรู้ใหม่จากการนำเสนอเนื้อหาในลักษณะของการฝึกแบบควบคุมหรือชี้นำ (Controlled Practice/Directed Activities) โดยมีครูผู้สอนเป็นผู้นำในการฝึกแบบค่อยๆปล่อยให้ทำเองมากขึ้น
3. ขั้นการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร (Production) ถือเป็นขั้นที่มีความสำคัญมากที่สุด เพราะการฝึกใช้ภาษาเพื่อการสื่อสารเปรียบเสมือนการถ่ายโอนการเรียนรู้ภาษาจากสถานการณ์ในชั้นเรียนไส่การนำภาษาไปใช้จริงนอกชั้นเรียน
การฝึกใช้ภาษาในลักษณะ 3 ขั้นตอนนี้ มีประโยชน์ในแง่ที่ช่วยให้ครูผู้สอนได้รู้ว่าฝู้เรียนมีความเข้าใจและเรียนรู้ภาษาไปแล้วมากน้อยเพียงใด สามารถนำไปประยุกต์ใช้ตามความต้องการขอลตนเองได้แค่ไหน เพราะการที่ผู้เรียนสามารถใช้ภาษาเพื่อการสื่อสารได้อย่างอิสระ ภายใต้สถานการณ์ต่างๆที่พบในชีวิตจริงนั้น ถือว่าผู้เรียนได้เรียนรู้แล้วอย่างแท้จริง

วันพุธที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2551

Learn Log 2

ในการเรียนการสอนในรายวิชา หลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ ทำให้ดิฉันได้เรียนรู้ในเรื่องวิธีการสอนต่างๆที่มีความหลากหลายและสามารถนำมาใช้ได้จริงในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้แก่เด็ก และสิ่งที่จะต้องเรียนรู้ คือหลักสูตรสถานศึกษา (School Based Curriculum) ซึ่งมีความสำคัญเป็นอย่างมาก และสิ่งที่นักศึกษาควรเรียนรู้อีกอย่าง คือ มาตรฐานการเรียนรู้(Standard Based Curriculum)
การจัดการเรียนการสอนต้องให้เด็กเรียนรู้เองและทำกิจกรรมให้เยอะ โดยที่ครูเป็นผู้ออกแบบกิจกรรม และต้องมีความคิดแบบ Creative อีกทั้งต้องคิดแบบมีวิจารณญาณ
Creative Thinking การคิดสร้างสรรค์
Criticat Thinking การคิดแบบวิจารณญาณ---Reasening การให้เหตุผล

ในอดีตเราจะเห็นว่าการสอนของครูจะเป็นการสอนแบบเดิมๆ ครูไม่ค่อยสนใจนักเรียน สอนง่ายๆ สบายๆ ซึ่งเป็นการสอนที่ไม่ได้ทำให้เด็กรู้จักคิดด้วยตนเอง
ส่วนในการประเมินจะต้องมีการประเมินต่อเนื่อง และประเมินขั้นตอน (Formative Assessment)
และมีการประเมินตอนท้าย (Summative)